LSCinter Group
Search
Close this search box.

เรียนอังกฤษ, เรียนต่ออังกฤษ, เรียนภาษาที่อังกฤษ, เรียนมัธยมที่อังกฤษ

โรงเรียนประจำของสหราชอาณาจักร คือ โรงเรียนกินนอนสำหรับเด็กและวัยรุ่นที่อายุไม่เกิน 18 ปี โดยเป็นการเรียนเพื่อสำเร็จคุณวุฒิการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับระดับนานาชาติ อาทิเช่น GCSE, Standard Grades และ Highers ของสก๊อตแลนด์,  A-levels และ International Baccalaureate

โรงเรียนประจำของสหราชอาณาจักร จะมอบการศึกษาที่มีคุณภาพเยี่ยม เพื่อช่วยคุณในการพัฒนาทักษะต่างๆ และเพื่อการเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัย โรงเรียนประจำทุกแห่งต้องมีคุณภาพผ่านเกณท์มาตรฐานที่เข้มงวด ซึ่งกำหนดโดยรัฐบาลของสหราชอาณาจักรในด้าน คุณภาพของการสอน สิ่งอำนวยความสะดวก และการดูแลนักศึกษา

ระบบการเรียน High School ที่อังกฤษ

ระดับมัธยมศึกษา (Public School)

โดยแบ่งออกเป็น ระดับย่อยตาม Key Stages คือ

1. Key Stage 3 ได้แก่ระดับชั้นมัธยมศึกษา Year 7 – 9 ซึ่งเป็นระดับชั้นที่โดยปกติแล้ว นักเรียนต่างชาติจะเริ่มต้นการศึกษาในประเทศอังกฤษ
โดยนักเรียนส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 
11 – 13 ปี

2. Key Stage 4ได้แก่ระดับชั้นมัธยมศึกษา Year 10 – 11 โดยนักเรียนส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 14 – 16 ปี

** หลังจากจบแต่ละ Key Stage นักเรียนจะต้องทำการสอบ National Tests เพื่อวัดผลการเรียนในแต่ละระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากนักเรียนเรียนจบในระดับ Key Stage 4 จะต้องทำการสอบเพื่อให้ได้วุฒิการศึกษา ซึ่งถือเป็นการจบการศึกษาภาคบังคับของประเทศอังกฤษ โดยวุฒิการศึกษานี้มีชื่อว่า General Certificate of Secondary Education (GCSE) หรือ O-Level เดิมนั่นเอง สำหรับนักเรียนไทยที่ไปเรียนที่ประเทศอังกฤษ และสอบผ่านวุฒิการศึกษาในระดับ GCSE นักเรียนสามารถนำวุฒิ GCSE กลับมาเทียบที่กระทรวงศึกษาธิการที่เมืองไทย เพื่อให้ได้วุฒิเทียบเท่าม. และสามารถนำวุฒินี้ยื่นสอบตรงเข้ามหาวิทยาลัย หลักสูตรภาคภาษาอังกฤษในประเทศไทยได้เลย จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ถือเป็นการย่นระยะเวลาการศึกษาของเด็กนักเรียนไทยในปัจจุบัน

การรับนักเรียน จะรับนักเรียนอายุ 13 ปีขึ้นไป และเรียน ได้จนถึงอายุ 18 – 19 ปี รวมระยะเวลาศึกษา 5 ปี เรียกว่า year 9 – year 13 หรือ Form 3 – Form 6 (สำหรับโรงเรียนที่เรียกระดับชั้นเป็น Form) แต่สำหรับนักเรียนชาวต่างชาติจะมีสิทธิ์เรียนต่อที่ (Independent School) โรงเรียนมัธยมของเอกชนเท่านั้น นักเรียนทุกคนจะต้องทำการสอบวัดผลความรู้ และความสามารถเพื่อจะนำไปใช้ในการ สมัครเข้าในระดับอุดมศึกษาต่อไป ทั้งนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการ และวิทยาศาสตร์ของอังกฤษเป็นผู้กำหนด โดยการสอบจะจัดโดยคณะกรรมาธิการอิสระซึ่งมี 5 คณะ โดยการสอบจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

1. GCSE (General Certificate of Secondary Education) การสอบระดับนี้ จะสอบเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 16 ปีขึ้นไป นักเรียนเลือกสอบประมาณ 6-10 วิชา เช่น วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ภาษาต่างประเทศ ศิลป ฯลฯ และผลการสอบจะแบ่งเป็น 7 ระดับ คือ Grade A, B, C, D, E, F, G ผู้ที่สอบได้ Grade Cขึ้นไปจึงจะถือว่าสอบผ่าน นักเรียนที่สอบ GCSE ได้แล้ว (อย่างน้อย 5 วิชา) หากจะศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา จะต้องศึกษาต่ออีกประมาณ 2 ปี ในระดับ A Level (Advanced Level)  หรือ ระดับ The International Baccalaureate (IB) Diploma

2.1  GCE A Level (GCE Advanced)  หรือที่รู้จักกันในนาม Sixth Form Colleges  โดยใช้ระยะเวลา 2ปีและมีการสอบปลายปีในแต่ละปีการศึกษา A Level  เป็นการสอบเพื่อวัดความสามารถทางวิชาการของเด็ก ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป มีวิชาให้เลือก 50 กว่าวิชา ส่วนใหญ่นักศึกษาในระดับ A Level จะลงเรียนเพียง 2-4 วิชา เพื่อที่จะได้ศึกษาแต่ละวิชาอย่างลึกซึ้ง วิชาที่นักศึกษาเลือกเรียนมักจะเกี่ยวข้องกับหลักสูตรหรือสาขาที่ต้องการ ศึกษาต่อ ในระดับปริญญาตรี

ผลการสอบ A Level มี 5 ระดับ คือ A, B, C, D, E แต่ Grade ที่ได้ทั้ง 5 ถือว่าสอบผ่านทั้งหมด มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่พิจารณารับผู้มีผลการสอบในระดับ ขึ้นไป บางแห่งอาจรับเฉพาะผู้ที่ได้คะแนนระดับ และ B

2.2  IB  The International Baccalaureate (IB) Diploma ป็นประกาศนียบัติทางด้านวิชาการระดับมัธยมศึกษาตอนปลายอายุระหว่าง 16 ถึง19 ปี ให้มีความพร้อมในการเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย ในทุกประเทศ หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรเข้มข้นโดยใช้เวลาเรียน 2 ปี หลักสูตรของ International Baccalaureateจะประกอบไปด้วยหกวิชาหลักๆ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาที่สอง(อาจจะเลือกเป็นภาษาของตนเองก็ได้) วิทยาศาสตร์เชิงการทดลอง ศิลปะ เลข และวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้นักเรียนจะต้องมีส่วนร่วมในกิจกรรมอาสาพัฒนาชุมชน กิจกรรมกีฬา และงานสร้างสรรค์ทางศิลปะอีกด้วย แก่นของหลักสูตรนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น3องค์ประกอบใหญ่ๆ ได้แก่

  • การเขียนเรียงความอย่างมีประสิทธิภาพ – จะมีการสอนเขียนเรียงความมากถึง 4,000คำต่อหนึ่งเรื่อง ในหัวข้อที่นักเรียนสนใจ
  • ทฤษฎีการเรียนรู้ – อีเอฟได้บรรจุและประยุกต์ใช้ปรัชญาความเข้าใจ และธรรมชาติการเรียนรู้ของนักเรียน เข้าไปในหลักสูตรและบทเรียนด้วย
  • ความคิดสร้างสรรค์ การลงมือทำ และการให้บริการ – ได้ถูกบรรจุอยู่ในชั้นเรียนต่างๆในหลักสูตร อาทิเช่น ศิลปะ กีฬา และอาสาพัฒนาชุมชน

นักเรียนจะเลือกเรียนหนึ่งวิชาจากแต่ละกลุ่มวิชา รวมเป็น วิชา โดยปกติ วิชาจะอยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่าอีก วิชาซึ่งจะเรียนในระดับมาตรฐาน หลักการเรียนรู้ทั้ง 3ส่วนเป็นภาคบังคับของหลักสูตร และเป็นหลักปรัชญาของหลักสูตรนี้

ปีการศึกษามีการแบ่งภาคเรียนอย่างไร?

โรงเรียนในสหราชอาณาจักรจะทำการสอน ภาคเรียน โดยแต่ละโรงเรียนจะกำหนดวันเปิดปิดภาคเรียนของตนเอง แต่โดยทั่วไปจะแบ่งภาคเรียนดังนี้:

  • ภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง: เดือนกันยายนถึงกลางเดือนธันวาคม วันหยุดกลางภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วงมีระยะเวลา หรือ สัปดาห์ในช่วงปลายเดือนตุลาคม
  • ภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิ: ต้นเดือนมกราคมถึงช่วงเทศกาลอีสเตอร์ วันหยุดกลางภาคเรียนฤดูใบไม้ผลิมีระยะเวลา สัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์
  • ภาคเรียนฤดูร้อน: หลังเทศกาลอีสเตอร์ถึงต้นเดือนกรกฎาคม วันหยุดกลางภาคเรียนฤดูร้อนมีระยะเวลา สัปดาห์ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

ค่าใช้จ่าย

ก่อนเริ่มต้นการเรียนของคุณ คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายและวิธีการจัดสรรเงินเพื่อการเรียนของคุณ โรงเรียนแต่ละแห่งกำหนดอัตราค่าเล่าเรียนของตนเอง  ดังต่อไปนี้

  • สำหรับโรงเรียนประจำอิสระ คุณต้องจ่ายค่าเล่าเรียนและค่าอาหารและที่พัก  ค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสำหรับนักเรียนวัยเด็กประมาณ 6,000 ปอนด์ต่อภาคเรียน สำหรับหลักสูตร sixth form ค่าใช้จ่ายอาจสูงกว่า 9,000 ปอนด์
  • โดยทั่วไปค่าเล่าเรียนจะครอบคลุมค่าที่พักอาหารและเครื่องดื่มค่าซักรีดฯลฯ อย่างไรก็ตาม คุณอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับเครื่องแบบนักเรียน,หนังสือและค่าเดินทางและทัศนศึกษานอกโรงเรียน กรุณาสอบถามทางโรงเรียนว่าค่าเล่าเรียนครอบคลุมค่าใช้จ่ายใดบ้าง และค่าใช้จ่ายใดที่ต้องจ่ายเอง

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ต้องคำนึงถึงได้แก่

  • ค่าเดินทางมายังสหราชอาณาจักร
  • ค่าประกันสุขภาพและการเดินทาง
  • เงินสดติดตัวสำหรับค่าขนมหนังสือการ์ตูนค่าเดินทางไปชมภาพยนตร์ ฯลฯ

เอกสารการสมัครเรียนเบื้องต้น

  • ใบแสดงผลการศึกษาฉบับจริง (Official Transcript) จากโรงเรียนที่สำเร็จการศึกษาในประเทศไทยปีล่าสุด
  • ใบสมัครที่กรอกเรียบร้อยแล้ว
  • จดหมายรับรองจากสถานศึกษาในประเทศไทยด้วย
  • ผลทดสอบ IELTS 5.0 (หรือผลสอบทางภาษาอื่นๆ)
  • ค่าธรรมเนียมในการสมัคร

เงื่อนไขการสมัครเข้าโรงเรียน

  • ความต้องการเข้าเรียนโรงเรียนประจำของสหราชอาณาจักรมีความแตกต่างกันแล้วแต่โรงเรียน สำหรับโรงเรียนที่ได้รับความนิยมส่วนใหญ่อาจจำเป็นต้องสมัครล่วงหน้าถึงสามปีก่อนกำหนดที่ต้องการเริ่มต้นการเรียน กรุณาดูเว็บไซต์ของแต่ละโรงเรียน สำหรับโรงเรียนจำนวนมาก คุณควรสมัครล่วงหน้า ปีหากเป็นไปได้ แต่หากคุณรอสมัครภายหลังก็ยังสามารถทำได้ เพียงแค่ส่งอีเมลล์หรือโทรไปสอบถามการรับสมัครที่โรงเรียนที่คุณสนใจ
  • การเริ่มต้นการเรียนในเดือนกันยายนจะเป็นการดีที่สุด (ช่วงเริ่มต้นของปีการศึกษาในสหราชอาณาจักร) เพื่อที่คุณจะได้เริ่มต้นการเรียนพร้อมๆกับนักศึกษาท้องถิ่น คุณจะเป็นนักศึกษา ใหม่” ร่วมกันและจะทำให้การปรับตัวง่ายกว่า
  • โรงเรียนหลายแห่งมีการจัดการสอบเข้าเรียน โรงเรียนบางแห่งจัดให้มีการสอบเพื่อคัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถด้านการเรียนมากที่สุด ส่วนโรงเรียนอื่นๆ ไม่ได้คัดเลือกนักเรียนโดยพิจารณาจากผลการสอบ แต่ใช้ผลการสอบในการระบุว่านักเรียนคนนั้นๆต้องการความช่วยเหลือด้านการเรียนอะไรบ้าง คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสอบ ยังมีโรงเรียนต่างๆมากมายที่รองรับทุกระดับความสามารถและทุกทักษะ
  • ในเรื่องทักษะภาษาอังกฤษ โรงเรียนต่างๆยินดีต้อนรับนักเรียนในหลากหลายความสามารถ แต่โรงเรียนบางแห่งอาจแนะนำให้คุณเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ ก่อนเริ่มต้นหลักสูตรหรือหลังจากที่คุณได้ลงทะเบียนเรียนแล้วเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะเข้าใจเนื้อหาการเรียนในห้องเรียน

ขั้นตอนการดำเนินการเบื้องต้น

ขั้นตอนที่ 1 การคัดเลือกโรงเรียน (2 สัปดาห์ หรือมากกว่า)  ศึกษาหาข้อมูลของโรงเรียนโดย การรับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ LSC

ขั้นตอนที่ 2 กรอกใบสมัคร  LSC ช่วยดำเนินการสมัครเรียนตลอดจนประสานงานกับโรงเรียนให้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

ขั้นตอนที่ 3 สอบข้อสอบสำหรับสอบเข้าโรงเรียน ซึ่งส่วนมากจะจัดสอบในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์/ มีนาคม หรือ พฤษภาคมเพื่อการเข้าเรียนในเดือนกันยายน และหลังจากผ่านการสอบเข้าโรงเรียนแล้ว จะมีการสอบสัมภาษณ์ (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละโรงเรียน)

ขั้นตอนที่ 4 Offer Letter (1 – 2 สัปดาห์)

ขั้นตอนที่ 5 จ่ายค่าเล่าเรียน ชำระค่าเล่าเรียนตามวิธีการที่ทางโรงเรียนกำหนด พร้อมกับแจ้งกลับมาที่ LSC

ขั้นตอนที่ 6 The visa letter ทางโรงเรียนจะออกจดหมายที่เรียกว่า The visa letter สำหรับการใช้ยื่นของ Student Visa

ขั้นตอนที่ 7 Student Visa (3 สัปดาห์ – 2 เดือน)

ขั้นตอนที่ 8 Pre-departure จากเจ้าหน้าที่ LSC ก่อนเดินทางเจ้าหน้าที่ LSC จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ต่อการเดินทางและใช้ชีวิตอยู่ในประเทศอังกฤษ

นักเรียนจะรู้ได้อย่างไรว่าสถาบันไหนเหมาะกับการไปเรียนภาษาที่อังกฤษของท่าน?

  1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ LSCinterstudy
    Hotline : 082-989-1599 และ 090-959-2499 ,
    Line@: @LSCinter
  2. เจ้าหน้าที่จะให้ข้อมูลการ เรียนภาษาที่อังกฤษ กับท่านอย่างละเอียดและท่านจะได้รับรายละเอียดของสถาบันที่เหมาะสมกับตัวท่าน และงบประมาณของท่านด้วย
  3. เมื่อท่านเลือกสถาบันได้แล้ว ท่านสามารถสมัครเรียนกับสถาบันที่ท่านต้องการได้กับเจ้าหน้าที่ LSC
  4. ทีมงานจะดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง เกินกว่าใบเรียกเก็บค่าเล่าเรียนที่ทางสถาบันต่างประเทศส่งมาให้ท่าน
  5. ท่านจะได้รับความรู้และบริการในการเตรียมตัวเปิดโลกใหม่ และเข้าใจถึงการเป็นอยู่ในประเทศอังกฤษ
  6. รวมถึงรู้จักเพื่อนใหม่ที่เป็นสมาชิก LSC อีกด้วย
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจจะไป เรียนต่ออังกฤษ ศึกษาต่ออังกฤษ เรียนภาษาที่อังกฤษ สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ พี่ ๆ LSC ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ โทรเลย 082-989-1599 และ 090-959-2499
** สถานบันที่ไม่ได้เข้าร่วมการเป็นพันธมิตรกับเราอาจจะมีค่าธรรมเนียมกำเนินการเพิ่มเติมแล้วแต่กรณี