LSCinter Group
Search
Close this search box.

Study in Finland

ข้อมูลประเทศฟินแลนด์ – Finland

  • ประชากร: 5.4 ล้านคน
  • ความหนาแน่นของประชากร: 18.1 คน ต่อ ตร.กม.
  • ภาษาราชการ: ภาษาฟินแลนด์ (88.9%) และภาษาสวีเดน (5.3%) ชาวพื้นเมืองทางตอนเหนือของ Lapland ใช้ภาษาซามิ
  • ศาสนา: ศาสนาคริสต์: นิกายลูเธอรัน 8% นิกายออร์โธดอกส์ 1.1% ประชาชนมีเสรีในการเลือกศาสนา
  • วันประกาศอิสรภาพ: 6 ธันวาคม 1917
  • รูปแบบรัฐบาล: สาธารณรัฐ, ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา
  • ประมุขแห่งรัฐ: ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ เลือกตั้งทุกๆ2012หกปี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันคือ Sauli Niinistö, ซึ่งได้รับการเลือกตั้งในปี2012
  • สมาชิกของสหภาพยุโรปตั้งแต่ปี 1995
  • สมาชิกของสหประชาชาติตั้งแต่ปี 1955
  • GDP ต่อคน (2014): 37,559 €
  • สกุลเงิน: ยูโร
  • คุณสมบัติที่สำคัญ: การศึกษาที่มีคุณภาพสูง, ประกันสังคมและสาธารณสุข โดยมีรัฐบาลสนับสนุนทางการเงินทั้งหมด

ประวัติศาสตร์ฟินแลนด์

ช่วงแรกเริ่ม

พื้นที่ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในนามประเทศฟินแลนด์ – finland นั้นมีหลักฐานการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์เมื่อประมาณ 11,000 ปีหลังจากช่วงปลายยุคน้ำแข็ง ผู้คนสมัยนั้นดำรงชีพด้วยการล่าสัตว์จนกระทั่ง   เมื่อยุคเกษตรกรรมเริ่มต้นขึ้น  เมื่อ 3,200 ปี อย่างไรก็ตามการล่าสัตว์และตกปลายังคงเป็นวิธีดำรงชีพที่สำคัญที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคตะวันออกและภาคเหนือ  ชาวฟินแลนด์ยุคแรกมีความเชื่อตามลัทธินอกศาสนาหลากหลายแตกต่างกันตามถิ่นที่อยู่

ต่อมาในยุคกลางศาสนาคริสต์ได้เข้ามามีอิทธิพลทางตอนเหนือ  ภารกิจหลักของคริสตจักรคาทอลิกคือการเปลี่ยนความเชื่อชาวบ้านตามลัทธินอกศาสนาให้เป็นคริสตศาสนิกชน  นิกายออร์โธดอกส์ได้เข้ามาเผยแพร่ทางภาคตะวันออกด้วยสันติวิธี แต่ทางฝั่งตะวันตกอาณาจักรสวีเดนและเดนมาร์กกลับพยายามที่จะทำสงครามเพื่อที่จะเอาชนะ

ส่วนหนึ่งของอาณาจักรแห่งสวีเดน

สวีเดนเริ่มเข้ายึดชายฝั่งทางตะวันตกของประเทศฟินแลนด์เป็นอาณานิคม ซึ่งพื้นที่นี้ในปัจจุบันยังคงใช้ภาษาสวีเดนในการสื่อสาร มีความขัดแย้งมากมายระหว่างชาวฟินแลนด์และผู้รุกรานที่เข้ามาทั้งทางตะวันออกและตะวันตก  ชาวเมือง Tavastians ของฟินแลนด์ตอนกลางต่อสู้กับพวกสวีเดนอย่างยาวนานจนถึงศตวรรษที่ 13 คนเผ่า Karelia และ Lapland ได้โจมตีชาวคริสต์เตียนจากอาณาจักรสวีเดนและพวกนิกายออร์โธดอกส์ที่เข้ามาทางตะวันออก

ในช่วงศตวรรษที่ 13 คำว่า Österland, Eastland ถูกนำมาใช้เรียกพื้นที่ในฟินแลนด์ที่อยู่ภายใต้การปกครองของสวีเดน จนในศตวรรษที่ 15 ชื่อนี้ก็ถูกแทนที่ด้วยชื่อ Suomi หรือฟินแลนด์

ในช่วงศตวรรษที่ 13 เมือง Turku ได้ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับมหาวิหารที่มีชื่อเสียง  ฟินแลนด์ได้รับการปกป้องจากป้อมปราการของ, Hämeenlinna และ Viipuri ฟินแลนด์ยังเป็นจุดหมายปลายทางของพวกไวกิ้งจากสแกนดิเนเวีย ป้อมปราการมีบทบาทสำคัญในการป้องกันชายฝั่ง คริสตจักรสวีเดนได้รับการปฏิรูปโดยกษัตริย์กุสตาฟ เวอซา ตามนโยบายของการปฏิรูปมิคาเอลอะโคลาบิชอปแห่ง Turku ตีพิมพ์คำแปลพันธสัญญาใหม่ในฟินแลนด์ในปี 1591 ในปีก่อนหน้ากษัตริย์กุสตาฟ เวอซา ได้ตั้งเมืองหลวงเฮลซิงกิขึ้นเป็นเมืองหลวง ภายใต้ชื่อ Helsingfors อย่างไรก็ตามมันยังคงเป็นหมู่บ้านชาวประมงมานานกว่าสองศตวรรษ  ในปี 1640 Academy of Åbo มหาวิทยาลัยแห่งแรกในฟินแลนด์ได้ก่อตั้งขึ้นที่เมือง Turku โดยราชินีคริสตินาชาวสวีเดน  หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่ในเมือง Turku เมื่อปี ค.ศ. 1827 มหาวิทยาลัยได้ย้ายไปที่เมืองเฮลซิงกิ  และหลังจากฟินแลนด์ได้รับเอกราชในปี 1917 มหาลัยได้เปลี่ยนชื่อเป็น University of Helsinki

ราชรัฐภายใต้อาณาจักรรัสเซีย

สงครามฟินแลนด์ระหว่างราชอาณาจักรสวีเดนและจักรวรรดิรัสเซียต่อสู้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 1808 ถึงกันยายน 1809 รัสเซียเป็นฝ่ายชนะ ฟินแลนด์กลายเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียและได้รับอำนาจให้ปกครองตนเองภายใต้ชื่อราชรัฐราชอาณาจักรฟินแลนด์  ในศตวรรษที่ 19 ประชากรในฟินแลนด์เพิ่มขึ้นและพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว  ในปี 1841 ภาษาฟินแลนด์ถูกนำมาสอนในโรงเรียน ในช่วงหลายปีแห่งการกดขี่ 1899-1905 และ 1908-1917 นโยบาย Russification ถูกนำมาใช้  นโยบายนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจำกัด สถานะของฟินแลนด์ในฐานะประเทศราชและรวมเข้ากับจักรวรรดิรัสเซีย  ชาวฟินแลนด์ที่รักชาติต่อต้านคัดค้านอย่างรุนแรงและต่อสู้เรื่อยๆ ในปี 1906 ผลจากการที่รัสเซียเปลี่ยนระบอบการปกครองและชาวฟินแลนด์ประท้วงเรียกร้องเอกราชการกดขี่ก็สิ้นสุดลงและรัฐสภาแห่งฟินแลนด์ก่อถูกก่อตั้งขึ้น สตรีชาวฟินแลนด์เป็นประเทศแรกในโลกที่มีมีสิทธิ์ออกเสียงลงคะแนน อย่างไรก็ตามเนื่องจากราชวงศ์ Romanovs ยังคงครองอำนาจอยู่  การใช้ นโยบาย Russification ยังคงดำเนินต่อจนถึงปี 1908

เป็นเอกราช

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่งภายหลังการปฏิวัติเดือนกุมภาพันธ์ฟินแลนด์เห็นว่าราชวงศ์รัสเซียเสื่อมอำนาจ จึงประกาศตัวเป็นเอกราช ในวันที่ 6 ธันวาคม 1917 แต่หลังจากนั้นสงครามกลางเมืองก็เกิดขึ้นระหว่างผู้เห็นต่างทางการเมือง ระหว่างฝ่าย Social Democrats และ non-Socialist Parliament โดยฝ่ายหลังเป็นฝ่ายชนะ ฟินแลนด์ประกาศเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตย  ในสงครามโลกครั้งที่สองฟินแลนด์ต่อสู้กับโซเวียตรัสเซียสองครั้งโดยสูญเสียพื้นที่บางส่วนของ Finish Karelia  ผู้คนจากพื้นที่เหล่านี้ก็อพยพเข้ามาอยู่ในพื้นที่ของฟินแลนด์  เป็นผลให้ทุกวันนี้ชาวฟินแลนด์จำนวนมากมีบรรพบุรุษจาก Karelia  แม้ว่าฟินแลนด์จะแพ้สงครามทั้งสองครั้ง แต่ก็ยังถือว่าเป็นชัยชนะ: ประเทศยังคงเป็นเอกราชหลังจากที่ถูกโจมตีโดยศัตรูที่มีกำลังทางทหารมหาศาล

ฟินแลนด์สมัยใหม่

ในปี 2017 ฟินแลนด์ฉลอง 100 ปี  นับตั้งแต่ได้รับเอกราช ฟินแลนด์พัฒนาประเทศจนวันนี้ ฟินแลนด์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีมาตรฐานการครองชีพที่สูงที่สุดในโลก การรักษาพยาบาลที่ฟรีและมีคุณภาพสูง และระบบการศึกษาที่ดีที่สุด  เราอยู่ในอันดับต้นๆ ของความโปร่งใส ความยั่งยืน นวัตกรรม ความสะอาด การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความเสมอภาค  ฟินแลนด์มีประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งและมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย  เรามีวิสัยทัศน์สำหรับอนาคต – เพื่อทำให้ฟินแลนด์เป็นประเทศสวัสดิการที่ก้าวหน้าที่สุดในโลก

สภาพอากาศในฟินแลนด์

ประเทศฟินแลนด์มีทั้งหมด 4 ฤดู

  • ในฤดูร้อน ผู้คนส่วนใหญ่สนุกกับวันหยุดฤดูร้อนและตามชายฝั่งทะเลสาบมีผู้คนมากมายมาพักผ่อนที่บ้านพักของพวกเขา มีช่วงเวลากลางวันยาวนานและช่วงเวลาที่ฟ้ามืดลงเพียงชั่วระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เวลาเที่ยงคืนพระอาทิตย์ก็ยังคงอยู่บนท้องฟ้า
  • ในฤดูใบไม้ร่วง จะเป็นช่วงที่มีสีสรรค์มากที่สุดและเป็นช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวที่อุดมสมบูรณ์ ขอบคุณ jokamiehenoikeudet – ทุกคนสามารถเก็บผลเบอร์รี่และเห็ดชนิดต่างๆได้มากเท่าที่คุณต้องการ คุณสามารถเดินผ่านป่าทุกป่า หรือต้องการที่จะตกปลาตามชายฝั่งที่ใดก็ได้ตามที่คุณต้องการ
  • ฤดูหนาว ในฟินแลนด์หนาวเย็นทางตอนใต้อาจมีแสงแดดเล็กน้อยแต่ในทางตอนเหนือดวงอาทิตย์จะไม่ขึ้นเลย – ปรากฎการณ์ที่เรียกว่า kaamos สามารถจะเจอได้ที่นี่
  • ฤดูใบไม้ผลิ ในฟินแลนด์นั้นสั้น หิมะจะละลายและดอกไม้จะเริ่มผลิบาน

นักเรียนจะรู้ได้อย่างไรว่าสถาบันไหนเหมาะกับการไปเรียนภาษาที่ฟินแลนด์ ของท่าน?

  1. ติดต่อเจ้าหน้าที่ LSCinterstudy Hotline : 082-989-1599 และ 090-959-2499 , Line@: @LSCinter
  2. เจ้าหน้าที่จะให้ข้อมูลการ เรียนภาษาที่ฟินแลนด์ กับท่านอย่างละเอียดและท่านจะได้รับรายละเอียดของสถาบันที่เหมาะสมกับตัวท่าน และงบประมาณของท่านด้วย
  3. เมื่อท่านเลือกสถาบันได้แล้ว ท่านสามารถสมัครเรียนกับสถาบันที่ท่านต้องการได้กับเจ้าหน้าที่ LSC
  4. ทีมงานจะดำเนินการตั้งแต่เริ่มต้น โดยไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง เกินกว่าใบเรียกเก็บค่าเล่าเรียนที่ทางสถาบันต่างประเทศส่งมาให้ท่าน
  5. ท่านจะได้รับความรู้และบริการในการเตรียมตัวเปิดโลกใหม่ และเข้าใจถึงการเป็นอยู่ในประเทศฟินแลนด์
  6. รวมถึงรู้จักเพื่อนใหม่ที่เป็นสมาชิก LSC อีกด้วย
สำหรับน้อง ๆ ที่สนใจจะไป เรียนต่อฟินแลนด์  ศึกษาต่อฟินแลนด์  เรียนภาษาที่ฟินแลนด์ สามารถโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้นะคะ พี่ ๆ LSC ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ โทรเลย 082-989-1599 และ 090-959-2499
** สถานบันที่ไม่ได้เข้าร่วมการเป็นพันธมิตรกับเราอาจจะมีค่าธรรมเนียมกำเนินการเพิ่มเติมแล้วแต่กรณี